เน็ตแรงเน็ตดี ดูยังไง วัดกันแบบไหน ใช้แอปฯอะไรวัดแล้วแม่นยำสุด พบคำตอบที่นี่

วิถีแห่งเด็กรุ่นใหม่ที่เกิดขึ้นมาบนโลกในทุกวันนี้ ถือเป็นเด็กที่เกิดขึ้นมาในยุคแห่งเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย โดยเฉพาะด้านการสื่อสาร ที่อินเทอร์เน็ตสามารถเชื่อมโยงวิถีชีวิตทุกอย่างและในทุกวัน ซึ่งแตกต่างจากสมัยเมื่อ 10 ปีก่อน ที่อินเทอร์เน็ตแม้จะได้รับความนิยม แต่ยังไม่สามารถเปลี่ยนวิถีชีวิตได้มากดังเช่นทุกวันนี้ เพราะไม่ว่ามนุษย์เรามีความต้องการอะไร ทั้งอาหาร ของใช้ ที่อยู่อาศัย เพื่อน หรือการศึกษาหาความรู้ ทุกอย่างมีพร้อมในโลกไซเบอร์ และปัจจุบันการใช้อินเทอร์เน็ตไม่ได้จำกัดอยู่แค่มนุษย์เท่านั้น แต่สิ่งของก็ใช้อินเทอร์เน็ตในการสื่อสารถึงสิ่งของด้วยกันในชื่อของ Internet of things (IOT) เช่น บ้านอัจฉริยะที่อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ สามารถส่งสัญญาณหากันได้ อาทิ เครื่องซักผ้า ส่งสัญญาณหาเครื่องอบผ้าผ่านไวไฟ หรือยานยนต์อัจฉริยะที่สามารถส่งสัญญาณหากันได้ ดังนั้น การมีอินเทอร์เน็ตที่มีสัญญาณที่ดี จึงจะส่งผลให้การใช้ชีวิตในแต่ละวันราบรื่น และมีประสิทธิภาพได้อย่างเหนือชั้น

แต่ปัญหาคือ แล้วเราจะรู้ได้อย่างไรว่าเครือข่ายอินเทอร์เน็ตที่เราใช้อยู่นั้นดีที่สุดสำหรับเราแล้ว?? เรื่องนี้ก็ไม่ใช่ปัญหาหนักอกอะไร เพราะปัจจุบันแทบทุกท่านก็ทราบกันดีอยู่แล้วว่า มีแอปพลิเคชันที่ใช้วัดความแรงความเร็วของอินเทอร์เน็ตที่ใช้ในแต่ละบ้านกันอยู่แล้ว แถมยังมีให้เลือกใช้กันหลากหลายแอปฯ จากหลากหลายผู้พัฒนา แต่ปัญหาก็ยังมีขึ้นตามมาอีกว่า แล้วเราจะทราบได้อย่างไรว่า แอปฯ ไหน เชื่อถือได้ แอปฯ ไหนได้มาตรฐาน ทำการทดสอบถึงแกนกลางการใช้งานอินเทอร์เน็ตบริเวณนั้นๆ ได้อย่างแท้จริง โดยไม่ได้ทดสอบเพียงแค่จาก Server ที่จัดตั้งขึ้นสำหรับการทดสอบโดยเฉพาะ

วันนี้ทีมงานจะพาไปไขข้อข้องใจเพื่อพิสูจน์ว่า แอปฯ ดีๆ มีอยู่จริง สำหรับคนที่อยากรู้ว่าการจะเลือกใช้เครื่องมือวัดความเร็วอินเทอร์เน็ตจากแอปฯ ไหนได้คุณภาพนั้น แต่ละแอปฯ ต้องมีการวัดค่าอะไรบ้าง ซึ่งอันดับแรกต้องดูว่า มีการการทดสอบในด้านต่างๆ มากพอหรือไม่ ไม่ว่าจะเป็นความเร็วในการ DOWNLOAD UPLOAD รวมถึงค่า Latency หรือค่า PING ว่าทำได้ดีหรือไม่ และต้องสามารถอธิบายถึงคุณภาพในการใช้งานที่แท้จริง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการเข้าถึง website ต่างๆ ทั้งในหรือนอกประเทศ มีความไวในการใช้งานมากน้อยระดับไหน การ streaming หรือดู VDO ที่ใช้ bandwidth สูงๆ ต่อเนื่องกันว่าสะดุดติดขัด หรือราบรื่นเพียงใด สิ่งเหล่านี้เป็นปัจจัยสำคัญที่เราควรจะสนับสนุน และเปลี่ยนมาใช้เครื่องมือในการวัดผลที่ได้มาตรฐานและใช้งานได้จริง ตรงตามวัตถุประสงค์ของการกด Speedtest แต่ละครั้งให้สมกับเวลาและ bandwidth ที่ได้ทดสอบไปอย่างเกิดประโยชน์สูงสุด

อย่างไรก็ตาม ทางทีมงานได้สำรวจแล้ว พบว่ามีแอปฯ จากฝั่งยุโรป 2 ค่าย ที่มีชื่อเสียงและมีความน่าเชื่อถือ เพราะมีการทดสอบครอบคลุมในด้านต่างๆ ที่กล่าวมา ก็คือ nPerf และ OpenSignal ซึ่งทั้ง 2 ไม่เพียงแต่จะมีการทดสอบที่ละเอียดแล้วยังมีความน่าเชื่อถือ เพราะไม่ได้เป็นพันธมิตรกับโอเปอร์เรเตอร์ค่ายไหนอีกด้วย จึงตัดประเด็นเรื่องความไม่เป็นกลางออกไปได้เลย และข่าวดีอีกประการหนึ่งคือ ทั้ง nPerf และ OpenSignal ได้ทำการทดสอบสัญญาณอินเทอร์เน็ตในประเทศไทยไว้ด้วย ซึ่งเมื่อล่าสุดในปี 2560 ที่ผ่านมา ได้รายงานประจำปีของผลการทดสอบความเร็วในการ DOWNLOAD ที่ดีที่สุด ทั้ง nPerf และ OpenSignal ก็ได้รายงานผลออกมาสอดคล้องกัน โดยยกให้ค่าย TRUEMOVE H ขึ้นนำมาเป็นอันดับ 1 เนื่องจากคุณสมบัติที่ผ่านการทดสอบหลายด้านแล้วเห็นว่าคู่ควรแก่ตำแหน่ง มงลงที่ TRUEMOVE H สวยๆ ปรบมือรัวๆๆๆๆๆค่า

และเพื่อความโปร่งใส เราไปเปิดข้อมูลกันเลยว่า TRUEMOVE H เขามีผลทดสอบออกมาอย่างไร ทำไมสามารถขึ้นแท่นแชมป์เน็ตแรงได้ ซึ่งผลการทดสอบจาก nPerf พบว่าการทดสอบในด้านการ DOWNLOAD Bitrates Averages เมื่อปี 2560 ค่าย TRUEMOVE H มีค่าเฉลี่ย 18.34 Mb/s รวมทั้งยังมีผลทดสอบการเข้าถึงเว็บไซต์อยู่ที่ 60.3% สูงเป็นอันดับหนึ่งเช่นกัน ขณะเดียวกัน ค่าย OpenSignal ก็ได้เปิดเผยผลทดสอบ DOWNLOAD SPEED OVERALLเมื่อไตรมาส 1/2561 ซึ่งผลออกมา TRUEMOVE H ก็มาอันดับ 1 ด้วยค่าเฉลี่ย 10 Mbps และยังได้ผลการทดสอบค่า Latency 4G ของผู้ให้บริการที่ดีที่สุดประจำไตรมาส 1 ปี 2561 ที่ ดีที่สุดอีกด้วย ดีครบถ้วนแบบนี้ เรียกว่าสวยสมมงจริงๆ จ้า

ขอขอบคุณข้อมูลจาก ไทยรัฐออนไลน์

https://www.facebook.com/net.truemove/

#โปรเน็ตทรูมูฟเอชทั้งเติมเน็ตและโทรถูกๆคุ้มสุดๆ

#prothaiphonetrue

Pin It on Pinterest

Share This